วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รับสกรีนเสื้อสุทธิสาร โทร : 0899048075 ร้านสกรีนเสื้อ


สกรีนเสื้อสุทธิสาร ,รับสกรีนเสื้อสุทธิสาร ,ร้านสกรีนเสื้อสุทธิสาร

การเลือกวิธีสกรีนเสื้อ

  ารเลือกซื้อเสื้อยืด ซึ่งจะอธิบายเกี่ยวกับเนื้อผ้า Cotton แล้ว ขั้นต่อมาคือการเลือกสกรีน  การสกรีนก็คือการทำลวดลายบนตัวเสื้อ แบ่งเป็นหลักๆได้ 3 ระบบ(ชื่อทางการตลาดงานสกรีน) คือ
1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสุทธิสาร (Silk Screen)
2. สกรีนระบบรีดร้อนสุทธิสาร (Heat Tranfer)
3. สกรีนโดยตรง DTG สุทธิสาร (Direct To Garment)
       สำหรับสกรีนระบบดิจิตอล บางร้านอาจจะใช้คำนี้ หมายถึงใช้คอมพิวเตอร์ในการพิมพ์ ก็อาจจะเป็นได้สองอย่างคือเป็น Heat Transfer  หรือ DTG เพราะกระบวนการพิมพ์ทั้งคู่ให้เครื่องพิมพ์ แต่เป็นเครื่องพิมพ์คนละชนิดกัน 

               ติดต่อเจ้าหน้าที่           




"ร้านสกรีนเสื้อ " บริการรับสกรีนเสื้อยืดไม่ว่าจะเป็นเสื้อทีม เสื้อคู่รัก เสื้อแฟนคลับ เสื้อโฆษณาสินค้าหรือสั่งทำพิเศษเนื่องในโอกาสต่าง ๆ สามารถปรึกษาเราได้คับ^^สำหรับท่านใดที่อยากจะทำเสื้อแต่ยังไม่มีประสบการณ์ สามารถสอบถามได้ ผลงานของเรา
สำหรับเสื้อยืดที่จะใช้สกรีน เสื้อยืดแขนเบิ้ล เรามีทั้งคอกลม คอวี เราใช้เนื้อผ้า cotton 100% เบอร์ 32 ซึ่งเรามีทุกสีและทุกไซส์คับ รับประกันคุณภาพทั้งด้านการตัดเย็บและการสกรีน.^^


  1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสุทธิสาร (Silk Screen)  คือการสกรีนระบบโบราณสมัยเริ่มต้นสกรีนใหม่ๆ และยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน มีหลักการคือทำให้บล็อกสกรีนมีลวดลาย แล้วนำสีมาพิมพ์ผ่านลวดลายลงบนเสื้อ ก็จะได้เสื้อ หลักการนี้ถูกเอามาใช้หลายกระบวนการทั้งพิมพ์สิ่งพิมพ์ต่างๆ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ พิมพ์จำนวนเยอะมีราคาถูกเช่นเสื้อ 100 ตัว คิดค่าสีตัวละ 8 บาท ค่าสกรีนคือ 800 บาท ค่าใช้จ่ายให้การทำบล็อกสกรีนประมาณสีละ 150-250 บาท ถ้าสกรีนสีเดียวค่าสกรีนประมาณ 1000 บาทสำหรับสกรีน 100 ตัว แต่หากว่าเสื้อนั้นสีหลากหลายสี เช่น 8 สี แน่นอนว่าเสื้อ 100 ตัวนั้นราคาจะต้องแพงขึ้นมากทันที ราคาจะกระโดดถึง 8 เท่า หรือ 8000 บาท หรืออาจจะได้ลดลงกว่านี้ขึ้นกับการต่อรอง
  - ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ความละเอียดของงาน และ ความสะอาดของเสื้อ เพราะว่าการพิมพ์ผ่านตาข่ายนั้นขนาดไม่เล็กเกินไปทำให้เป็นรอยหยึกหยักภาพไม่คมได้ และไม่สามารถสกรีนตัวหนังสือเล็กๆได้ งานสกรีนบางทีอาจจะขาดหายไม่เท่ากัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะข้อจำกัดของสีและตาข่ายบล็อกสกรีน ส่วนความสะอาดของเสื้อเนื่องจากการสกรีนต้องวางเสื้อบนโต๊ะซึ่งต้องติดกาวเอาไว้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หรือหากใช้กาวไม่ดีกาวก็จะติดเสื้อได้
 

2. สกรีนระบบรีดร้อนสุทธิสาร (Heat Transfer) โดยส่วนมากร้านมักจะโฆษณาว่า 1 ตัวก็สกรีนได้ หรือ สกรีนดิจิตอล ทีเป็นเช่นนี้เพราะ หลักการสกรีนของระบบนี้คือการใช้เครื่องพิมพ์ Ink Jet บรรจุน้ำหมึก Sublimation  ซึ่งหมึกชนิดนี้จะสามารถติดบนพลาสติกได้ และน้ำหมึก Pigment สำหรับสกรีนแบบกระดาษ Heat Tranfer จึงแบ่งย่อยได้เป็น 2 แบบ
                  1.1. วิธีการนี้นิยมมากที่สุด เรียกว่า Sublimation กระบวนการสกรีนเริ่มโดยการสั่งงานพิมพ์ลงบนกระดาษ Sublimation จากนั้นนำกระดาษที่พิมพ์ลายสกรีนไปวางบนเสื้อแล้วรีดด้วยเตารีด หรือเครื่องรีดร้อน เนื่องจากความร้อน หมึกที่อยู่บนกระดาษจะระเหิดไปเกาะบนเสื้อ ซึ่งเสื้อที่จะติดได้ต้องเป็นพลาสติกเท่านั้น เสื้อที่นำมาสกรีนด้วยวิธีนี้จึงควรเป็นเสื้อที่ผลิตจากพลาสติก Polyester ชื่อในทางตลาดคือ TK หรือ TC ที่พอมีส่วนผสมของ Cotton แต่ลายสกรีนอาจไม่เด่นชัดเท่า TK หากนำไปสกรีนลงบน Cotton เมื่อนำไปซักลายสกรีนจะค่อยๆหลุดออกจากเสื้อ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี ต้นทุนถูก หมึกซึมไปในเส้นใยจับแล้วไม่รู้สึกถึงสีสกรีน และไม่ต้องใช้แรงงานในการสกรีน ใช้เพียง 1-2 คนก็สามารถทำงานสกรีนเป็น 1000 ตัวได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อเข้มได้ และไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อ Cotton ได้
 

                  2.2.วิธีการนี้เรียกว่า Heat Transfer บางร้านอาจเรียก Sublimation ว่า Heat Transfer ซึ่งจริงๆแล้วมันแตกต่างกัน Heat transfer แปลตามชื่อก็หมายถึงการแลกเปลี่ยนความร้อน แต่ในงานสกรีนคือ การทำให้สีติดโดยใช้การแลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งยังแตกย่อยอีกหลายกระบวนการ แต่ที่นิยมในไทยจะเป็นการพิมพ์ลงกระดาษที่มีกาวเคลือบไว้ด้านหลัง ก่อนจะนำไปรีดต้องแกะด้านกาวออกก่อนเหมือนแกะสติกเกอร์ เมื่อนำไปรีดร้อนหมึก Pigment จะไม่ระเหิดแต่จะอยู่บนกระดาษ ส่วนกระดาษที่ใช้จะแตกต่างกันเพราะมันจะเคลือบกาวไว้เมื่อโดนความร้อนจากเครื่องรีด กระดาษนั้นจะติดกับเสื้อนั่นเอง เหมือนกับเฟล็กติดเสื้อฟุตบอล
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สามารถสกรีนบนเสื้อเข้มได้ หรือเสื้อ Cottonได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ภาพเป็นกรอบสี่เหลี่ยม หากจะตัดให้ได้รูปทรงต้องนำมาตัดด้วยเครื่องตัดสติกเกอร์อีกที อีกทั้งเสื้อสกรีนแบบนี้จะร้อนและหนักกว่าเพราะเหมือนมีกระดาษหนาๆไปแปะบนเสื้อ และ ลายสกรีนจะไม่คงทน เมื่อผ่านการซัก 4-5 ครั้งลายสกรีนอาจจะหลุดออกมาได้
 

3. สกรีนโดยตรง DTG สุทธิสาร (Direct To Garment) คือ กระบวนใหม่ที่ใช้หลักการนำหมึก Pigment มาสกรีนลงบนเสื้อโดยตรงเลย ด้วยเครื่องพิมพ์ผ้าโดยเฉพาะ หลักการการทำงาน นำเสื้อไปวางบนแท่นพิมพ์แล้วสั่งพิมพ์ จากนั้นนำมาอบสีให้แห้ง
  - ข้อดีของกระบกวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี หมึกซึมไปในเส้นใยผ้า เหมาะกับการสกรีนลงบน Cotton โดยเฉพาะ สามารถพิมพ์ผ้าเข้มหรือผ้าดำได้ โดยมีกระบวนการเตรียมงานและเครื่องพิมพ์รองพื้นด้วยหมึกขาวก่อน ภาพสวย สกรีนคมชัดลายละเอียดสูงถึง 1200dpi (Silk Screen ปกติ 120 dpi) เป็นกระบวนการสกรีนเสื้อที่สกรีนภาพออกมาได้ดีที่สุดแล้วในปัจจุบันนี้ 
- ข้อเสียของกระบวนการนี้ คือเครื่องพิมพ์มีราคาแพงมาก และต้องการการบำรุงรักษามาก ต้นทุนหมึกสูง ต้องใช้ทักษะในการทำงานสูง หากผู้ผลิตไม่มีความเข้าใจในการเตรียมงานจะทำให้งานพิมพ์ออกมาไม่ดีได้
สกรีนเสื้อสุทธิสาร ทางสายหลัก
        - สกรีนเสื้อย่านถนนรัชดาภิเษก
        - สกรีนเสื้อย่านสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร
        - สกรีนเสื้อย่านโรงพยาบาลโกลเด้นเยียส์
        - สกรีนเสื้อย่านศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (อาคารกฤษดาพลาซ่า)
        - สกรีนเสื้อย่านสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 10 (อาคารปรีชาคอมเพล็กซ์)..
        - สกรีนเสื้อย่านอาคารเมืองไทย-ภัทรคอมเพล็กซ์
        - สกรีนเสื้อย่านอาคารกฤษดาพลาซ่า
        - สกรีนเสื้อย่านอาคารปรีชาคอมเพล็กซ์
        - สกรีนเสื้อย่านตลาดนัดหน้าอาคารมานูย่า
        - สกรีนเสื้อย่านโรงแรมเดอะแกรนด์ อยุธยา โฮเต็ล กรุงเทพฯ
        - สกรีนเสื้อย่านโรงแรม 13 เหรียญ ทาวเวอร์ รัชดา
        - สกรีนเสื้อย่านบริการจดทะเบียนธุรกิจ 3, 5 และ 7 (รัชดาภิเษก, รามคำแหง และแจ้งวัฒนะ)
        - สกรีนเสื้อย่านโรงแรมเวรอนนิก้า เรสซิเด็นซ์

รับสกรีนเสื้ออนุเสาวรีย์ชัย โทร :0899048075 ร้านสกรีนเสื้อ


สกรีนเสื้ออนุเสาวรีย์ชัย ,รับสกรีนเสื้ออนุเสาวรีย์ชัย ,ร้านสกรีนเสื้ออนุเสาวรีย์ชัย

การเลือกวิธีสกรีนเสื้อ

  ารเลือกซื้อเสื้อยืด ซึ่งจะอธิบายเกี่ยวกับเนื้อผ้า Cotton แล้ว ขั้นต่อมาคือการเลือกสกรีน  การสกรีนก็คือการทำลวดลายบนตัวเสื้อ แบ่งเป็นหลักๆได้ 3 ระบบ(ชื่อทางการตลาดงานสกรีน) คือ
1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนอนุเสาวรีย์ชัย (Silk Screen)
2. สกรีนระบบรีดร้อนอนุเสาวรีย์ชัย (Heat Tranfer)
3. สกรีนโดยตรง DTG อนุเสาวรีย์ชัย (Direct To Garment)
       สำหรับสกรีนระบบดิจิตอล บางร้านอาจจะใช้คำนี้ หมายถึงใช้คอมพิวเตอร์ในการพิมพ์ ก็อาจจะเป็นได้สองอย่างคือเป็น Heat Transfer  หรือ DTG เพราะกระบวนการพิมพ์ทั้งคู่ให้เครื่องพิมพ์ แต่เป็นเครื่องพิมพ์คนละชนิดกัน

                 ติดต่อเจ้าหน้าที่           




"ร้านสกรีนเสื้อ " บริการรับสกรีนเสื้อยืดไม่ว่าจะเป็นเสื้อทีม เสื้อคู่รัก เสื้อแฟนคลับ เสื้อโฆษณาสินค้าหรือสั่งทำพิเศษเนื่องในโอกาสต่าง ๆ สามารถปรึกษาเราได้คับ^^สำหรับท่านใดที่อยากจะทำเสื้อแต่ยังไม่มีประสบการณ์ สามารถสอบถามได้ ผลงานของเรา
สำหรับเสื้อยืดที่จะใช้สกรีน เสื้อยืดแขนเบิ้ล เรามีทั้งคอกลม คอวี เราใช้เนื้อผ้า cotton 100% เบอร์ 32 ซึ่งเรามีทุกสีและทุกไซส์คับ รับประกันคุณภาพทั้งด้านการตัดเย็บและการสกรีน.^^
 

  1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนอนุเสาวรีย์ชัย (Silk Screen)  คือการสกรีนระบบโบราณสมัยเริ่มต้นสกรีนใหม่ๆ และยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน มีหลักการคือทำให้บล็อกสกรีนมีลวดลาย แล้วนำสีมาพิมพ์ผ่านลวดลายลงบนเสื้อ ก็จะได้เสื้อ หลักการนี้ถูกเอามาใช้หลายกระบวนการทั้งพิมพ์สิ่งพิมพ์ต่างๆ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ พิมพ์จำนวนเยอะมีราคาถูกเช่นเสื้อ 100 ตัว คิดค่าสีตัวละ 8 บาท ค่าสกรีนคือ 800 บาท ค่าใช้จ่ายให้การทำบล็อกสกรีนประมาณสีละ 150-250 บาท ถ้าสกรีนสีเดียวค่าสกรีนประมาณ 1000 บาทสำหรับสกรีน 100 ตัว แต่หากว่าเสื้อนั้นสีหลากหลายสี เช่น 8 สี แน่นอนว่าเสื้อ 100 ตัวนั้นราคาจะต้องแพงขึ้นมากทันที ราคาจะกระโดดถึง 8 เท่า หรือ 8000 บาท หรืออาจจะได้ลดลงกว่านี้ขึ้นกับการต่อรอง
  - ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ความละเอียดของงาน และ ความสะอาดของเสื้อ เพราะว่าการพิมพ์ผ่านตาข่ายนั้นขนาดไม่เล็กเกินไปทำให้เป็นรอยหยึกหยักภาพไม่คมได้ และไม่สามารถสกรีนตัวหนังสือเล็กๆได้ งานสกรีนบางทีอาจจะขาดหายไม่เท่ากัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะข้อจำกัดของสีและตาข่ายบล็อกสกรีน ส่วนความสะอาดของเสื้อเนื่องจากการสกรีนต้องวางเสื้อบนโต๊ะซึ่งต้องติดกาวเอาไว้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หรือหากใช้กาวไม่ดีกาวก็จะติดเสื้อได้
 

2. สกรีนระบบรีดร้อนอนุเสาวรีย์ชัย  (Heat Transfer) โดยส่วนมากร้านมักจะโฆษณาว่า 1 ตัวก็สกรีนได้ หรือ สกรีนดิจิตอล ทีเป็นเช่นนี้เพราะ หลักการสกรีนของระบบนี้คือการใช้เครื่องพิมพ์ Ink Jet บรรจุน้ำหมึก Sublimation  ซึ่งหมึกชนิดนี้จะสามารถติดบนพลาสติกได้ และน้ำหมึก Pigment สำหรับสกรีนแบบกระดาษ Heat Tranfer จึงแบ่งย่อยได้เป็น 2 แบบ
                  1.1. วิธีการนี้นิยมมากที่สุด เรียกว่า Sublimation กระบวนการสกรีนเริ่มโดยการสั่งงานพิมพ์ลงบนกระดาษ Sublimation จากนั้นนำกระดาษที่พิมพ์ลายสกรีนไปวางบนเสื้อแล้วรีดด้วยเตารีด หรือเครื่องรีดร้อน เนื่องจากความร้อน หมึกที่อยู่บนกระดาษจะระเหิดไปเกาะบนเสื้อ ซึ่งเสื้อที่จะติดได้ต้องเป็นพลาสติกเท่านั้น เสื้อที่นำมาสกรีนด้วยวิธีนี้จึงควรเป็นเสื้อที่ผลิตจากพลาสติก Polyester ชื่อในทางตลาดคือ TK หรือ TC ที่พอมีส่วนผสมของ Cotton แต่ลายสกรีนอาจไม่เด่นชัดเท่า TK หากนำไปสกรีนลงบน Cotton เมื่อนำไปซักลายสกรีนจะค่อยๆหลุดออกจากเสื้อ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี ต้นทุนถูก หมึกซึมไปในเส้นใยจับแล้วไม่รู้สึกถึงสีสกรีน และไม่ต้องใช้แรงงานในการสกรีน ใช้เพียง 1-2 คนก็สามารถทำงานสกรีนเป็น 1000 ตัวได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อเข้มได้ และไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อ Cotton ได้
 

                  2.2.วิธีการนี้เรียกว่า Heat Transfer บางร้านอาจเรียก Sublimation ว่า Heat Transfer ซึ่งจริงๆแล้วมันแตกต่างกัน Heat transfer แปลตามชื่อก็หมายถึงการแลกเปลี่ยนความร้อน แต่ในงานสกรีนคือ การทำให้สีติดโดยใช้การแลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งยังแตกย่อยอีกหลายกระบวนการ แต่ที่นิยมในไทยจะเป็นการพิมพ์ลงกระดาษที่มีกาวเคลือบไว้ด้านหลัง ก่อนจะนำไปรีดต้องแกะด้านกาวออกก่อนเหมือนแกะสติกเกอร์ เมื่อนำไปรีดร้อนหมึก Pigment จะไม่ระเหิดแต่จะอยู่บนกระดาษ ส่วนกระดาษที่ใช้จะแตกต่างกันเพราะมันจะเคลือบกาวไว้เมื่อโดนความร้อนจากเครื่องรีด กระดาษนั้นจะติดกับเสื้อนั่นเอง เหมือนกับเฟล็กติดเสื้อฟุตบอล
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สามารถสกรีนบนเสื้อเข้มได้ หรือเสื้อ Cottonได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ภาพเป็นกรอบสี่เหลี่ยม หากจะตัดให้ได้รูปทรงต้องนำมาตัดด้วยเครื่องตัดสติกเกอร์อีกที อีกทั้งเสื้อสกรีนแบบนี้จะร้อนและหนักกว่าเพราะเหมือนมีกระดาษหนาๆไปแปะบนเสื้อ และ ลายสกรีนจะไม่คงทน เมื่อผ่านการซัก 4-5 ครั้งลายสกรีนอาจจะหลุดออกมาได้
 

3. สกรีนโดยตรง DTG อนุเสาวรีย์ชัย (Direct To Garment) คือ กระบวนใหม่ที่ใช้หลักการนำหมึก Pigment มาสกรีนลงบนเสื้อโดยตรงเลย ด้วยเครื่องพิมพ์ผ้าโดยเฉพาะ หลักการการทำงาน นำเสื้อไปวางบนแท่นพิมพ์แล้วสั่งพิมพ์ จากนั้นนำมาอบสีให้แห้ง
  - ข้อดีของกระบกวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี หมึกซึมไปในเส้นใยผ้า เหมาะกับการสกรีนลงบน Cotton โดยเฉพาะ สามารถพิมพ์ผ้าเข้มหรือผ้าดำได้ โดยมีกระบวนการเตรียมงานและเครื่องพิมพ์รองพื้นด้วยหมึกขาวก่อน ภาพสวย สกรีนคมชัดลายละเอียดสูงถึง 1200dpi (Silk Screen ปกติ 120 dpi) เป็นกระบวนการสกรีนเสื้อที่สกรีนภาพออกมาได้ดีที่สุดแล้วในปัจจุบันนี้ 
- ข้อเสียของกระบวนการนี้ คือเครื่องพิมพ์มีราคาแพงมาก และต้องการการบำรุงรักษามาก ต้นทุนหมึกสูง ต้องใช้ทักษะในการทำงานสูง หากผู้ผลิตไม่มีความเข้าใจในการเตรียมงานจะทำให้งานพิมพ์ออกมาไม่ดีได้
  
สกรีนเสื้ออนุเสาวรีย์ชัย ทางสายหลัก
        - สกรีนเสื้อย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
        - สกรีนเสื้อย่านถนนพหลโยธิน
        - สกรีนเสื้อย่านถนนราชวิถี
        - สกรีนเสื้อย่านถนนพญาไท
        - สกรีนเสื้อย่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

คลิ๊กดูผลงานได้ที่


รับสกรีนเสื้อสุขุมวิท โทร : 0899048075 ร้านสกรีนเสื้อ


สกรีนเสื้อสุขุมวิท ,รับสกรีนเสื้อสุขุมวิท ,ร้านสกรีนเสื้อสุขุมวิท

การเลือกวิธีสกรีนเสื้อ

  ารเลือกซื้อเสื้อยืด ซึ่งจะอธิบายเกี่ยวกับเนื้อผ้า Cotton แล้ว ขั้นต่อมาคือการเลือกสกรีน  การสกรีนก็คือการทำลวดลายบนตัวเสื้อ แบ่งเป็นหลักๆได้ 3 ระบบ(ชื่อทางการตลาดงานสกรีน) คือ
1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสุขุมวิท (Silk Screen)
2. สกรีนระบบรีดร้อนสุขุมวิท (Heat Tranfer)
3. สกรีนโดยตรง DTG สุขุมวิท (Direct To Garment)
       สำหรับสกรีนระบบดิจิตอล บางร้านอาจจะใช้คำนี้ หมายถึงใช้คอมพิวเตอร์ในการพิมพ์ ก็อาจจะเป็นได้สองอย่างคือเป็น Heat Transfer  หรือ DTG เพราะกระบวนการพิมพ์ทั้งคู่ให้เครื่องพิมพ์ แต่เป็นเครื่องพิมพ์คนละชนิดกัน 

                 ติดต่อเจ้าหน้าที่           




"ร้านสกรีนเสื้อ " บริการรับสกรีนเสื้อยืดไม่ว่าจะเป็นเสื้อทีม เสื้อคู่รัก เสื้อแฟนคลับ เสื้อโฆษณาสินค้าหรือสั่งทำพิเศษเนื่องในโอกาสต่าง ๆ สามารถปรึกษาเราได้คับ^^สำหรับท่านใดที่อยากจะทำเสื้อแต่ยังไม่มีประสบการณ์ สามารถสอบถามได้ ผลงานของเรา
สำหรับเสื้อยืดที่จะใช้สกรีน เสื้อยืดแขนเบิ้ล เรามีทั้งคอกลม คอวี เราใช้เนื้อผ้า cotton 100% เบอร์ 32 ซึ่งเรามีทุกสีและทุกไซส์คับ รับประกันคุณภาพทั้งด้านการตัดเย็บและการสกรีน.^^
 

  1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสุขุมวิท (Silk Screen)  คือการสกรีนระบบโบราณสมัยเริ่มต้นสกรีนใหม่ๆ และยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน มีหลักการคือทำให้บล็อกสกรีนมีลวดลาย แล้วนำสีมาพิมพ์ผ่านลวดลายลงบนเสื้อ ก็จะได้เสื้อ หลักการนี้ถูกเอามาใช้หลายกระบวนการทั้งพิมพ์สิ่งพิมพ์ต่างๆ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ พิมพ์จำนวนเยอะมีราคาถูกเช่นเสื้อ 100 ตัว คิดค่าสีตัวละ 8 บาท ค่าสกรีนคือ 800 บาท ค่าใช้จ่ายให้การทำบล็อกสกรีนประมาณสีละ 150-250 บาท ถ้าสกรีนสีเดียวค่าสกรีนประมาณ 1000 บาทสำหรับสกรีน 100 ตัว แต่หากว่าเสื้อนั้นสีหลากหลายสี เช่น 8 สี แน่นอนว่าเสื้อ 100 ตัวนั้นราคาจะต้องแพงขึ้นมากทันที ราคาจะกระโดดถึง 8 เท่า หรือ 8000 บาท หรืออาจจะได้ลดลงกว่านี้ขึ้นกับการต่อรอง
  - ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ความละเอียดของงาน และ ความสะอาดของเสื้อ เพราะว่าการพิมพ์ผ่านตาข่ายนั้นขนาดไม่เล็กเกินไปทำให้เป็นรอยหยึกหยักภาพไม่คมได้ และไม่สามารถสกรีนตัวหนังสือเล็กๆได้ งานสกรีนบางทีอาจจะขาดหายไม่เท่ากัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะข้อจำกัดของสีและตาข่ายบล็อกสกรีน ส่วนความสะอาดของเสื้อเนื่องจากการสกรีนต้องวางเสื้อบนโต๊ะซึ่งต้องติดกาวเอาไว้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หรือหากใช้กาวไม่ดีกาวก็จะติดเสื้อได้
 

2. สกรีนระบบรีดร้อนสุขุมวิท (Heat Transfer) โดยส่วนมากร้านมักจะโฆษณาว่า 1 ตัวก็สกรีนได้ หรือ สกรีนดิจิตอล ทีเป็นเช่นนี้เพราะ หลักการสกรีนของระบบนี้คือการใช้เครื่องพิมพ์ Ink Jet บรรจุน้ำหมึก Sublimation  ซึ่งหมึกชนิดนี้จะสามารถติดบนพลาสติกได้ และน้ำหมึก Pigment สำหรับสกรีนแบบกระดาษ Heat Tranfer จึงแบ่งย่อยได้เป็น 2 แบบ
                  1.1. วิธีการนี้นิยมมากที่สุด เรียกว่า Sublimation กระบวนการสกรีนเริ่มโดยการสั่งงานพิมพ์ลงบนกระดาษ Sublimation จากนั้นนำกระดาษที่พิมพ์ลายสกรีนไปวางบนเสื้อแล้วรีดด้วยเตารีด หรือเครื่องรีดร้อน เนื่องจากความร้อน หมึกที่อยู่บนกระดาษจะระเหิดไปเกาะบนเสื้อ ซึ่งเสื้อที่จะติดได้ต้องเป็นพลาสติกเท่านั้น เสื้อที่นำมาสกรีนด้วยวิธีนี้จึงควรเป็นเสื้อที่ผลิตจากพลาสติก Polyester ชื่อในทางตลาดคือ TK หรือ TC ที่พอมีส่วนผสมของ Cotton แต่ลายสกรีนอาจไม่เด่นชัดเท่า TK หากนำไปสกรีนลงบน Cotton เมื่อนำไปซักลายสกรีนจะค่อยๆหลุดออกจากเสื้อ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี ต้นทุนถูก หมึกซึมไปในเส้นใยจับแล้วไม่รู้สึกถึงสีสกรีน และไม่ต้องใช้แรงงานในการสกรีน ใช้เพียง 1-2 คนก็สามารถทำงานสกรีนเป็น 1000 ตัวได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อเข้มได้ และไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อ Cotton ได้
 

                  2.2.วิธีการนี้เรียกว่า Heat Transfer บางร้านอาจเรียก Sublimation ว่า Heat Transfer ซึ่งจริงๆแล้วมันแตกต่างกัน Heat transfer แปลตามชื่อก็หมายถึงการแลกเปลี่ยนความร้อน แต่ในงานสกรีนคือ การทำให้สีติดโดยใช้การแลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งยังแตกย่อยอีกหลายกระบวนการ แต่ที่นิยมในไทยจะเป็นการพิมพ์ลงกระดาษที่มีกาวเคลือบไว้ด้านหลัง ก่อนจะนำไปรีดต้องแกะด้านกาวออกก่อนเหมือนแกะสติกเกอร์ เมื่อนำไปรีดร้อนหมึก Pigment จะไม่ระเหิดแต่จะอยู่บนกระดาษ ส่วนกระดาษที่ใช้จะแตกต่างกันเพราะมันจะเคลือบกาวไว้เมื่อโดนความร้อนจากเครื่องรีด กระดาษนั้นจะติดกับเสื้อนั่นเอง เหมือนกับเฟล็กติดเสื้อฟุตบอล
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สามารถสกรีนบนเสื้อเข้มได้ หรือเสื้อ Cottonได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ภาพเป็นกรอบสี่เหลี่ยม หากจะตัดให้ได้รูปทรงต้องนำมาตัดด้วยเครื่องตัดสติกเกอร์อีกที อีกทั้งเสื้อสกรีนแบบนี้จะร้อนและหนักกว่าเพราะเหมือนมีกระดาษหนาๆไปแปะบนเสื้อ และ ลายสกรีนจะไม่คงทน เมื่อผ่านการซัก 4-5 ครั้งลายสกรีนอาจจะหลุดออกมาได้
 

3. สกรีนโดยตรง DTG สุขุมวิท (Direct To Garment) คือ กระบวนใหม่ที่ใช้หลักการนำหมึก Pigment มาสกรีนลงบนเสื้อโดยตรงเลย ด้วยเครื่องพิมพ์ผ้าโดยเฉพาะ หลักการการทำงาน นำเสื้อไปวางบนแท่นพิมพ์แล้วสั่งพิมพ์ จากนั้นนำมาอบสีให้แห้ง
  - ข้อดีของกระบกวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี หมึกซึมไปในเส้นใยผ้า เหมาะกับการสกรีนลงบน Cotton โดยเฉพาะ สามารถพิมพ์ผ้าเข้มหรือผ้าดำได้ โดยมีกระบวนการเตรียมงานและเครื่องพิมพ์รองพื้นด้วยหมึกขาวก่อน ภาพสวย สกรีนคมชัดลายละเอียดสูงถึง 1200dpi (Silk Screen ปกติ 120 dpi) เป็นกระบวนการสกรีนเสื้อที่สกรีนภาพออกมาได้ดีที่สุดแล้วในปัจจุบันนี้ 
- ข้อเสียของกระบวนการนี้ คือเครื่องพิมพ์มีราคาแพงมาก และต้องการการบำรุงรักษามาก ต้นทุนหมึกสูง ต้องใช้ทักษะในการทำงานสูง หากผู้ผลิตไม่มีความเข้าใจในการเตรียมงานจะทำให้งานพิมพ์ออกมาไม่ดีได้
  
สกรีนเสื้อสุขุมวิท ทางสายหลัก
        - สกรีนเสื้อย่านโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
        - สกรีนเสื้อย่านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
        - สกรีนเสื้อย่านสวนเบญจสิริ
        - สกรีนเสื้อย่านท้องฟ้าจำลอง
        - สกรีนเสื้อย่านองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) 
        - สกรีนเสื้อย่านสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
        - สกรีนเสื้อย่านสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (เอกมัย)
        - สกรีนเสื้อย่านวัดธาตุทอง
        - สกรีนเสื้อย่านสำนักงานเขตพระโขนง
        - สกรีนเสื้อย่านกรมอุตุนิยมวิทยา
        - สกรีนเสื้อย่านสนามกีฬาภูติอนันต์ กองทัพเรือ
        - สกรีนเสื้อย่านสนามยิงปืนราชนาวี บางนา

คลิ๊กดูผลงานได้ที่

รับสกรีนเสื้อสุขาภิบาล โทร : 0899048075 ร้านสกรีนเสื้อ


สกรีนเสื้อสุขาภิบาล ,รับสกรีนเสื้อสุขาภิบาล ,ร้านสกรีนเสื้อสุขาภิบาล

การเลือกวิธีสกรีนเสื้อ

  ารเลือกซื้อเสื้อยืด ซึ่งจะอธิบายเกี่ยวกับเนื้อผ้า Cotton แล้ว ขั้นต่อมาคือการเลือกสกรีน  การสกรีนก็คือการทำลวดลายบนตัวเสื้อ แบ่งเป็นหลักๆได้ 3 ระบบ(ชื่อทางการตลาดงานสกรีน) คือ
1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสุขาภิบาล (Silk Screen)
2. สกรีนระบบรีดร้อนสุขาภิบาล (Heat Tranfer)
3. สกรีนโดยตรง DTG สุขาภิบาล (Direct To Garment)
       สำหรับสกรีนระบบดิจิตอล บางร้านอาจจะใช้คำนี้ หมายถึงใช้คอมพิวเตอร์ในการพิมพ์ ก็อาจจะเป็นได้สองอย่างคือเป็น Heat Transfer  หรือ DTG เพราะกระบวนการพิมพ์ทั้งคู่ให้เครื่องพิมพ์ แต่เป็นเครื่องพิมพ์คนละชนิดกัน
                  ติดต่อเจ้าหน้าที่           


  
 

  1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสุขาภิบาล (Silk Screen)  คือการสกรีนระบบโบราณสมัยเริ่มต้นสกรีนใหม่ๆ และยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน มีหลักการคือทำให้บล็อกสกรีนมีลวดลาย แล้วนำสีมาพิมพ์ผ่านลวดลายลงบนเสื้อ ก็จะได้เสื้อ หลักการนี้ถูกเอามาใช้หลายกระบวนการทั้งพิมพ์สิ่งพิมพ์ต่างๆ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ พิมพ์จำนวนเยอะมีราคาถูกเช่นเสื้อ 100 ตัว คิดค่าสีตัวละ 8 บาท ค่าสกรีนคือ 800 บาท ค่าใช้จ่ายให้การทำบล็อกสกรีนประมาณสีละ 150-250 บาท ถ้าสกรีนสีเดียวค่าสกรีนประมาณ 1000 บาทสำหรับสกรีน 100 ตัว แต่หากว่าเสื้อนั้นสีหลากหลายสี เช่น 8 สี แน่นอนว่าเสื้อ 100 ตัวนั้นราคาจะต้องแพงขึ้นมากทันที ราคาจะกระโดดถึง 8 เท่า หรือ 8000 บาท หรืออาจจะได้ลดลงกว่านี้ขึ้นกับการต่อรอง
  - ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ความละเอียดของงาน และ ความสะอาดของเสื้อ เพราะว่าการพิมพ์ผ่านตาข่ายนั้นขนาดไม่เล็กเกินไปทำให้เป็นรอยหยึกหยักภาพไม่คมได้ และไม่สามารถสกรีนตัวหนังสือเล็กๆได้ งานสกรีนบางทีอาจจะขาดหายไม่เท่ากัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะข้อจำกัดของสีและตาข่ายบล็อกสกรีน ส่วนความสะอาดของเสื้อเนื่องจากการสกรีนต้องวางเสื้อบนโต๊ะซึ่งต้องติดกาวเอาไว้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หรือหากใช้กาวไม่ดีกาวก็จะติดเสื้อได้
 

2. สกรีนระบบรีดร้อนสุขาภิบาล (Heat Transfer) โดยส่วนมากร้านมักจะโฆษณาว่า 1 ตัวก็สกรีนได้ หรือ สกรีนดิจิตอล ทีเป็นเช่นนี้เพราะ หลักการสกรีนของระบบนี้คือการใช้เครื่องพิมพ์ Ink Jet บรรจุน้ำหมึก Sublimation  ซึ่งหมึกชนิดนี้จะสามารถติดบนพลาสติกได้ และน้ำหมึก Pigment สำหรับสกรีนแบบกระดาษ Heat Tranfer จึงแบ่งย่อยได้เป็น 2 แบบ
                  1.1. วิธีการนี้นิยมมากที่สุด เรียกว่า Sublimation กระบวนการสกรีนเริ่มโดยการสั่งงานพิมพ์ลงบนกระดาษ Sublimation จากนั้นนำกระดาษที่พิมพ์ลายสกรีนไปวางบนเสื้อแล้วรีดด้วยเตารีด หรือเครื่องรีดร้อน เนื่องจากความร้อน หมึกที่อยู่บนกระดาษจะระเหิดไปเกาะบนเสื้อ ซึ่งเสื้อที่จะติดได้ต้องเป็นพลาสติกเท่านั้น เสื้อที่นำมาสกรีนด้วยวิธีนี้จึงควรเป็นเสื้อที่ผลิตจากพลาสติก Polyester ชื่อในทางตลาดคือ TK หรือ TC ที่พอมีส่วนผสมของ Cotton แต่ลายสกรีนอาจไม่เด่นชัดเท่า TK หากนำไปสกรีนลงบน Cotton เมื่อนำไปซักลายสกรีนจะค่อยๆหลุดออกจากเสื้อ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี ต้นทุนถูก หมึกซึมไปในเส้นใยจับแล้วไม่รู้สึกถึงสีสกรีน และไม่ต้องใช้แรงงานในการสกรีน ใช้เพียง 1-2 คนก็สามารถทำงานสกรีนเป็น 1000 ตัวได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อเข้มได้ และไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อ Cotton ได้
 

                  2.2.วิธีการนี้เรียกว่า Heat Transfer บางร้านอาจเรียก Sublimation ว่า Heat Transfer ซึ่งจริงๆแล้วมันแตกต่างกัน Heat transfer แปลตามชื่อก็หมายถึงการแลกเปลี่ยนความร้อน แต่ในงานสกรีนคือ การทำให้สีติดโดยใช้การแลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งยังแตกย่อยอีกหลายกระบวนการ แต่ที่นิยมในไทยจะเป็นการพิมพ์ลงกระดาษที่มีกาวเคลือบไว้ด้านหลัง ก่อนจะนำไปรีดต้องแกะด้านกาวออกก่อนเหมือนแกะสติกเกอร์ เมื่อนำไปรีดร้อนหมึก Pigment จะไม่ระเหิดแต่จะอยู่บนกระดาษ ส่วนกระดาษที่ใช้จะแตกต่างกันเพราะมันจะเคลือบกาวไว้เมื่อโดนความร้อนจากเครื่องรีด กระดาษนั้นจะติดกับเสื้อนั่นเอง เหมือนกับเฟล็กติดเสื้อฟุตบอล
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สามารถสกรีนบนเสื้อเข้มได้ หรือเสื้อ Cottonได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ภาพเป็นกรอบสี่เหลี่ยม หากจะตัดให้ได้รูปทรงต้องนำมาตัดด้วยเครื่องตัดสติกเกอร์อีกที อีกทั้งเสื้อสกรีนแบบนี้จะร้อนและหนักกว่าเพราะเหมือนมีกระดาษหนาๆไปแปะบนเสื้อ และ ลายสกรีนจะไม่คงทน เมื่อผ่านการซัก 4-5 ครั้งลายสกรีนอาจจะหลุดออกมาได้
 

3. สกรีนโดยตรง DTG สุขาภิบาล (Direct To Garment) คือ กระบวนใหม่ที่ใช้หลักการนำหมึก Pigment มาสกรีนลงบนเสื้อโดยตรงเลย ด้วยเครื่องพิมพ์ผ้าโดยเฉพาะ หลักการการทำงาน นำเสื้อไปวางบนแท่นพิมพ์แล้วสั่งพิมพ์ จากนั้นนำมาอบสีให้แห้ง
  - ข้อดีของกระบกวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี หมึกซึมไปในเส้นใยผ้า เหมาะกับการสกรีนลงบน Cotton โดยเฉพาะ สามารถพิมพ์ผ้าเข้มหรือผ้าดำได้ โดยมีกระบวนการเตรียมงานและเครื่องพิมพ์รองพื้นด้วยหมึกขาวก่อน ภาพสวย สกรีนคมชัดลายละเอียดสูงถึง 1200dpi (Silk Screen ปกติ 120 dpi) เป็นกระบวนการสกรีนเสื้อที่สกรีนภาพออกมาได้ดีที่สุดแล้วในปัจจุบันนี้ 
- ข้อเสียของกระบวนการนี้ คือเครื่องพิมพ์มีราคาแพงมาก และต้องการการบำรุงรักษามาก ต้นทุนหมึกสูง ต้องใช้ทักษะในการทำงานสูง หากผู้ผลิตไม่มีความเข้าใจในการเตรียมงานจะทำให้งานพิมพ์ออกมาไม่ดีได้
  
สกรีนเสื้อสุขาภิบาล ทางสายหลัก
        - สกรีนเสื้อถนนสุขาภิบาล 1
        - สกรีนเสื้อถนนสุขาภิบาล 2
        - สกรีนเสื้อถนนสุขาภิบาล 3
        - สกรีนเสื้อถนนสุขาภิบาล 4
        - สกรีนเสื้อถนนสุขาภิบาล 5

คลิ๊กดูผลงานได้ที่
 

รับสกรีนเสื้อสีลม โทร : 0899048075 ร้านสกรีนเสื้อ


สกรีนเสื้อสีลม ,รับสกรีนเสื้อสีลม ,ร้านสกรีนเสื้อสีลม

การเลือกวิธีสกรีนเสื้อ

  ารเลือกซื้อเสื้อยืด ซึ่งจะอธิบายเกี่ยวกับเนื้อผ้า Cotton แล้ว ขั้นต่อมาคือการเลือกสกรีน  การสกรีนก็คือการทำลวดลายบนตัวเสื้อ แบ่งเป็นหลักๆได้ 3 ระบบ(ชื่อทางการตลาดงานสกรีน) คือ
1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสีลม (Silk Screen)
2. สกรีนระบบรีดร้อนสีลม (Heat Tranfer)
3. สกรีนโดยตรง DTG สีลม (Direct To Garment)
       สำหรับสกรีนระบบดิจิตอล บางร้านอาจจะใช้คำนี้ หมายถึงใช้คอมพิวเตอร์ในการพิมพ์ ก็อาจจะเป็นได้สองอย่างคือเป็น Heat Transfer  หรือ DTG เพราะกระบวนการพิมพ์ทั้งคู่ให้เครื่องพิมพ์ แต่เป็นเครื่องพิมพ์คนละชนิดกัน
  
                   ติดต่อเจ้าหน้าที่           


 

  1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสีลม (Silk Screen)  คือการสกรีนระบบโบราณสมัยเริ่มต้นสกรีนใหม่ๆ และยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน มีหลักการคือทำให้บล็อกสกรีนมีลวดลาย แล้วนำสีมาพิมพ์ผ่านลวดลายลงบนเสื้อ ก็จะได้เสื้อ หลักการนี้ถูกเอามาใช้หลายกระบวนการทั้งพิมพ์สิ่งพิมพ์ต่างๆ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ พิมพ์จำนวนเยอะมีราคาถูกเช่นเสื้อ 100 ตัว คิดค่าสีตัวละ 8 บาท ค่าสกรีนคือ 800 บาท ค่าใช้จ่ายให้การทำบล็อกสกรีนประมาณสีละ 150-250 บาท ถ้าสกรีนสีเดียวค่าสกรีนประมาณ 1000 บาทสำหรับสกรีน 100 ตัว แต่หากว่าเสื้อนั้นสีหลากหลายสี เช่น 8 สี แน่นอนว่าเสื้อ 100 ตัวนั้นราคาจะต้องแพงขึ้นมากทันที ราคาจะกระโดดถึง 8 เท่า หรือ 8000 บาท หรืออาจจะได้ลดลงกว่านี้ขึ้นกับการต่อรอง
  - ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ความละเอียดของงาน และ ความสะอาดของเสื้อ เพราะว่าการพิมพ์ผ่านตาข่ายนั้นขนาดไม่เล็กเกินไปทำให้เป็นรอยหยึกหยักภาพไม่คมได้ และไม่สามารถสกรีนตัวหนังสือเล็กๆได้ งานสกรีนบางทีอาจจะขาดหายไม่เท่ากัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะข้อจำกัดของสีและตาข่ายบล็อกสกรีน ส่วนความสะอาดของเสื้อเนื่องจากการสกรีนต้องวางเสื้อบนโต๊ะซึ่งต้องติดกาวเอาไว้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หรือหากใช้กาวไม่ดีกาวก็จะติดเสื้อได้
 

2. สกรีนระบบรีดร้อนสีลม (Heat Transfer) โดยส่วนมากร้านมักจะโฆษณาว่า 1 ตัวก็สกรีนได้ หรือ สกรีนดิจิตอล ทีเป็นเช่นนี้เพราะ หลักการสกรีนของระบบนี้คือการใช้เครื่องพิมพ์ Ink Jet บรรจุน้ำหมึก Sublimation  ซึ่งหมึกชนิดนี้จะสามารถติดบนพลาสติกได้ และน้ำหมึก Pigment สำหรับสกรีนแบบกระดาษ Heat Tranfer จึงแบ่งย่อยได้เป็น 2 แบบ
                  1.1. วิธีการนี้นิยมมากที่สุด เรียกว่า Sublimation กระบวนการสกรีนเริ่มโดยการสั่งงานพิมพ์ลงบนกระดาษ Sublimation จากนั้นนำกระดาษที่พิมพ์ลายสกรีนไปวางบนเสื้อแล้วรีดด้วยเตารีด หรือเครื่องรีดร้อน เนื่องจากความร้อน หมึกที่อยู่บนกระดาษจะระเหิดไปเกาะบนเสื้อ ซึ่งเสื้อที่จะติดได้ต้องเป็นพลาสติกเท่านั้น เสื้อที่นำมาสกรีนด้วยวิธีนี้จึงควรเป็นเสื้อที่ผลิตจากพลาสติก Polyester ชื่อในทางตลาดคือ TK หรือ TC ที่พอมีส่วนผสมของ Cotton แต่ลายสกรีนอาจไม่เด่นชัดเท่า TK หากนำไปสกรีนลงบน Cotton เมื่อนำไปซักลายสกรีนจะค่อยๆหลุดออกจากเสื้อ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี ต้นทุนถูก หมึกซึมไปในเส้นใยจับแล้วไม่รู้สึกถึงสีสกรีน และไม่ต้องใช้แรงงานในการสกรีน ใช้เพียง 1-2 คนก็สามารถทำงานสกรีนเป็น 1000 ตัวได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อเข้มได้ และไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อ Cotton ได้
 

                  2.2.วิธีการนี้เรียกว่า Heat Transfer บางร้านอาจเรียก Sublimation ว่า Heat Transfer ซึ่งจริงๆแล้วมันแตกต่างกัน Heat transfer แปลตามชื่อก็หมายถึงการแลกเปลี่ยนความร้อน แต่ในงานสกรีนคือ การทำให้สีติดโดยใช้การแลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งยังแตกย่อยอีกหลายกระบวนการ แต่ที่นิยมในไทยจะเป็นการพิมพ์ลงกระดาษที่มีกาวเคลือบไว้ด้านหลัง ก่อนจะนำไปรีดต้องแกะด้านกาวออกก่อนเหมือนแกะสติกเกอร์ เมื่อนำไปรีดร้อนหมึก Pigment จะไม่ระเหิดแต่จะอยู่บนกระดาษ ส่วนกระดาษที่ใช้จะแตกต่างกันเพราะมันจะเคลือบกาวไว้เมื่อโดนความร้อนจากเครื่องรีด กระดาษนั้นจะติดกับเสื้อนั่นเอง เหมือนกับเฟล็กติดเสื้อฟุตบอล
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สามารถสกรีนบนเสื้อเข้มได้ หรือเสื้อ Cottonได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ภาพเป็นกรอบสี่เหลี่ยม หากจะตัดให้ได้รูปทรงต้องนำมาตัดด้วยเครื่องตัดสติกเกอร์อีกที อีกทั้งเสื้อสกรีนแบบนี้จะร้อนและหนักกว่าเพราะเหมือนมีกระดาษหนาๆไปแปะบนเสื้อ และ ลายสกรีนจะไม่คงทน เมื่อผ่านการซัก 4-5 ครั้งลายสกรีนอาจจะหลุดออกมาได้
 

3. สกรีนโดยตรง DTG สีลม (Direct To Garment) คือ กระบวนใหม่ที่ใช้หลักการนำหมึก Pigment มาสกรีนลงบนเสื้อโดยตรงเลย ด้วยเครื่องพิมพ์ผ้าโดยเฉพาะ หลักการการทำงาน นำเสื้อไปวางบนแท่นพิมพ์แล้วสั่งพิมพ์ จากนั้นนำมาอบสีให้แห้ง
  - ข้อดีของกระบกวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี หมึกซึมไปในเส้นใยผ้า เหมาะกับการสกรีนลงบน Cotton โดยเฉพาะ สามารถพิมพ์ผ้าเข้มหรือผ้าดำได้ โดยมีกระบวนการเตรียมงานและเครื่องพิมพ์รองพื้นด้วยหมึกขาวก่อน ภาพสวย สกรีนคมชัดลายละเอียดสูงถึง 1200dpi (Silk Screen ปกติ 120 dpi) เป็นกระบวนการสกรีนเสื้อที่สกรีนภาพออกมาได้ดีที่สุดแล้วในปัจจุบันนี้ 
- ข้อเสียของกระบวนการนี้ คือเครื่องพิมพ์มีราคาแพงมาก และต้องการการบำรุงรักษามาก ต้นทุนหมึกสูง ต้องใช้ทักษะในการทำงานสูง หากผู้ผลิตไม่มีความเข้าใจในการเตรียมงานจะทำให้งานพิมพ์ออกมาไม่ดีได้
  
สกรีนเสื้อสีลม ทางสายหลัก
        - สกรีนเสื้อย่านสีลมคอมเพล็กซ์
        - สกรีนเสื้อย่าน ยูไนเต็ดเซ็นเตอร์
        - สกรีนเสื้อย่าน ซี.พี.ทาวเวอร์ 1 สีลม
        - สกรีนเสื้อย่านซอยละลายทรัพย์ (สีลมซอย 5)
        - สกรีนเสื้อย่านซอยพัฒน์พงศ์
        - สกรีนเสื้อย่านสวนลุมพินี
        - สกรีนเสื้อย่านวัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือ วัดแขกสีลม
        - สกรีนเสื้อย่านโรงแรมดุสิตธานี (สีลม)
        - สกรีนเสื้อย่านโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
        - สกรีนเสื้อย่านสภากาชาดไทย

คลิ๊กดูผลงานได้ที่
 

รับสกรีนเสื้อสาธุประดิษฐ์ โทร : 0899048075 ร้านสกรีนเสื้อ


สกรีนเสื้อสาธุประดิษฐ์ ,รับสกรีนเสื้อสาธุประดิษฐ์ ,ร้านสกรีนเสื้อสาธุประดิษฐ์

การเลือกวิธีสกรีนเสื้อ

  ารเลือกซื้อเสื้อยืด ซึ่งจะอธิบายเกี่ยวกับเนื้อผ้า Cotton แล้ว ขั้นต่อมาคือการเลือกสกรีน  การสกรีนก็คือการทำลวดลายบนตัวเสื้อ แบ่งเป็นหลักๆได้ 3 ระบบ(ชื่อทางการตลาดงานสกรีน) คือ
1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสาธุประดิษฐ์ (Silk Screen)
2. สกรีนระบบรีดร้อนสาธุประดิษฐ์ (Heat Tranfer)
3. สกรีนโดยตรง DTG สาธุประดิษฐ์ (Direct To Garment)
       สำหรับสกรีนระบบดิจิตอล บางร้านอาจจะใช้คำนี้ หมายถึงใช้คอมพิวเตอร์ในการพิมพ์ ก็อาจจะเป็นได้สองอย่างคือเป็น Heat Transfer  หรือ DTG เพราะกระบวนการพิมพ์ทั้งคู่ให้เครื่องพิมพ์ แต่เป็นเครื่องพิมพ์คนละชนิดกัน
                   ติดต่อเจ้าหน้าที่           



 

  1. สกรีนระบบบล็อกสกรีนสาธุประดิษฐ์ (Silk Screen)  คือการสกรีนระบบโบราณสมัยเริ่มต้นสกรีนใหม่ๆ และยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน มีหลักการคือทำให้บล็อกสกรีนมีลวดลาย แล้วนำสีมาพิมพ์ผ่านลวดลายลงบนเสื้อ ก็จะได้เสื้อ หลักการนี้ถูกเอามาใช้หลายกระบวนการทั้งพิมพ์สิ่งพิมพ์ต่างๆ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ พิมพ์จำนวนเยอะมีราคาถูกเช่นเสื้อ 100 ตัว คิดค่าสีตัวละ 8 บาท ค่าสกรีนคือ 800 บาท ค่าใช้จ่ายให้การทำบล็อกสกรีนประมาณสีละ 150-250 บาท ถ้าสกรีนสีเดียวค่าสกรีนประมาณ 1000 บาทสำหรับสกรีน 100 ตัว แต่หากว่าเสื้อนั้นสีหลากหลายสี เช่น 8 สี แน่นอนว่าเสื้อ 100 ตัวนั้นราคาจะต้องแพงขึ้นมากทันที ราคาจะกระโดดถึง 8 เท่า หรือ 8000 บาท หรืออาจจะได้ลดลงกว่านี้ขึ้นกับการต่อรอง
  - ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ความละเอียดของงาน และ ความสะอาดของเสื้อ เพราะว่าการพิมพ์ผ่านตาข่ายนั้นขนาดไม่เล็กเกินไปทำให้เป็นรอยหยึกหยักภาพไม่คมได้ และไม่สามารถสกรีนตัวหนังสือเล็กๆได้ งานสกรีนบางทีอาจจะขาดหายไม่เท่ากัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะข้อจำกัดของสีและตาข่ายบล็อกสกรีน ส่วนความสะอาดของเสื้อเนื่องจากการสกรีนต้องวางเสื้อบนโต๊ะซึ่งต้องติดกาวเอาไว้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หรือหากใช้กาวไม่ดีกาวก็จะติดเสื้อได้
 

2. สกรีนระบบรีดร้อนสาธุประดิษฐ์ (Heat Transfer) โดยส่วนมากร้านมักจะโฆษณาว่า 1 ตัวก็สกรีนได้ หรือ สกรีนดิจิตอล ทีเป็นเช่นนี้เพราะ หลักการสกรีนของระบบนี้คือการใช้เครื่องพิมพ์ Ink Jet บรรจุน้ำหมึก Sublimation  ซึ่งหมึกชนิดนี้จะสามารถติดบนพลาสติกได้ และน้ำหมึก Pigment สำหรับสกรีนแบบกระดาษ Heat Tranfer จึงแบ่งย่อยได้เป็น 2 แบบ
                  1.1. วิธีการนี้นิยมมากที่สุด เรียกว่า Sublimation กระบวนการสกรีนเริ่มโดยการสั่งงานพิมพ์ลงบนกระดาษ Sublimation จากนั้นนำกระดาษที่พิมพ์ลายสกรีนไปวางบนเสื้อแล้วรีดด้วยเตารีด หรือเครื่องรีดร้อน เนื่องจากความร้อน หมึกที่อยู่บนกระดาษจะระเหิดไปเกาะบนเสื้อ ซึ่งเสื้อที่จะติดได้ต้องเป็นพลาสติกเท่านั้น เสื้อที่นำมาสกรีนด้วยวิธีนี้จึงควรเป็นเสื้อที่ผลิตจากพลาสติก Polyester ชื่อในทางตลาดคือ TK หรือ TC ที่พอมีส่วนผสมของ Cotton แต่ลายสกรีนอาจไม่เด่นชัดเท่า TK หากนำไปสกรีนลงบน Cotton เมื่อนำไปซักลายสกรีนจะค่อยๆหลุดออกจากเสื้อ
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี ต้นทุนถูก หมึกซึมไปในเส้นใยจับแล้วไม่รู้สึกถึงสีสกรีน และไม่ต้องใช้แรงงานในการสกรีน ใช้เพียง 1-2 คนก็สามารถทำงานสกรีนเป็น 1000 ตัวได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อเข้มได้ และไม่สามารถพิมพ์ลงบนเสื้อ Cotton ได้
 

                  2.2.วิธีการนี้เรียกว่า Heat Transfer บางร้านอาจเรียก Sublimation ว่า Heat Transfer ซึ่งจริงๆแล้วมันแตกต่างกัน Heat transfer แปลตามชื่อก็หมายถึงการแลกเปลี่ยนความร้อน แต่ในงานสกรีนคือ การทำให้สีติดโดยใช้การแลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งยังแตกย่อยอีกหลายกระบวนการ แต่ที่นิยมในไทยจะเป็นการพิมพ์ลงกระดาษที่มีกาวเคลือบไว้ด้านหลัง ก่อนจะนำไปรีดต้องแกะด้านกาวออกก่อนเหมือนแกะสติกเกอร์ เมื่อนำไปรีดร้อนหมึก Pigment จะไม่ระเหิดแต่จะอยู่บนกระดาษ ส่วนกระดาษที่ใช้จะแตกต่างกันเพราะมันจะเคลือบกาวไว้เมื่อโดนความร้อนจากเครื่องรีด กระดาษนั้นจะติดกับเสื้อนั่นเอง เหมือนกับเฟล็กติดเสื้อฟุตบอล
  - ข้อดีของกระบวนการนี้คือ สามารถสกรีนบนเสื้อเข้มได้ หรือเสื้อ Cottonได้
- ข้อเสียของกระบวนการนี้คือ ภาพเป็นกรอบสี่เหลี่ยม หากจะตัดให้ได้รูปทรงต้องนำมาตัดด้วยเครื่องตัดสติกเกอร์อีกที อีกทั้งเสื้อสกรีนแบบนี้จะร้อนและหนักกว่าเพราะเหมือนมีกระดาษหนาๆไปแปะบนเสื้อ และ ลายสกรีนจะไม่คงทน เมื่อผ่านการซัก 4-5 ครั้งลายสกรีนอาจจะหลุดออกมาได้
 

3. สกรีนโดยตรง DTG สาธุประดิษฐ์ (Direct To Garment) คือ กระบวนใหม่ที่ใช้หลักการนำหมึก Pigment มาสกรีนลงบนเสื้อโดยตรงเลย ด้วยเครื่องพิมพ์ผ้าโดยเฉพาะ หลักการการทำงาน นำเสื้อไปวางบนแท่นพิมพ์แล้วสั่งพิมพ์ จากนั้นนำมาอบสีให้แห้ง
  - ข้อดีของกระบกวนการนี้คือ สกรีนได้หลายสี หมึกซึมไปในเส้นใยผ้า เหมาะกับการสกรีนลงบน Cotton โดยเฉพาะ สามารถพิมพ์ผ้าเข้มหรือผ้าดำได้ โดยมีกระบวนการเตรียมงานและเครื่องพิมพ์รองพื้นด้วยหมึกขาวก่อน ภาพสวย สกรีนคมชัดลายละเอียดสูงถึง 1200dpi (Silk Screen ปกติ 120 dpi) เป็นกระบวนการสกรีนเสื้อที่สกรีนภาพออกมาได้ดีที่สุดแล้วในปัจจุบันนี้ 
- ข้อเสียของกระบวนการนี้ คือเครื่องพิมพ์มีราคาแพงมาก และต้องการการบำรุงรักษามาก ต้นทุนหมึกสูง ต้องใช้ทักษะในการทำงานสูง หากผู้ผลิตไม่มีความเข้าใจในการเตรียมงานจะทำให้งานพิมพ์ออกมาไม่ดีได้
  
สกรีนเสื้อสาธุประดิษฐ์ ทางสายหลัก
        - สกรีนเสื้อย่านวัดโพธิ์แมนคุณาราม
      
คลิ๊กดูผลงานได้ที่